KCG โชว์กำไรสุทธิ Q3/66 ที่ 55.3 ลบ. โต 10.5%

KCG  โชว์กำไรสุทธิ Q3/66 จำนวน 55.3 ลบ. โต 10.5% สร้างผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีนี้ กวาดกำไรสุทธิพุ่ง 29.3% รุก Q4 รับเทศกาลเฉลิมฉลอง ดันรายได้โตตามเป้า

ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม – กันยายน 2566) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมียอดขาย 1,681.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% และมีกำไรสุทธิ 55.3 ล้านบาท เติบโต 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกและเบเกอรี่ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สามารถเติบโตได้ดี รวมถึงช่องทางการจำหน่ายให้ผู้ประกอบการ ช่องทางการจำหน่ายให้ผู้บริโภค และส่งออก ล้วนมีอัตราการขยายตัวที่ดี เนื่องจากความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกและเบเกอรี่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและโภชนาการ อีกทั้งเป็นผลจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค  

ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 29.9% โดยภาพรวมราคาต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าเพื่อจำหน่ายทยอยปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการบริหารจัดการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2566) ทำกำไรสุทธิ 164.5 ล้านบาท เติบโต 29.3% และมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 4,949.9 ล้านบาท เติบโต 17.1% เป็นผลจากการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีรายได้ 2,951.5 ล้านบาท เติบโต 17.2% ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มีรายได้ 1,482.6 ล้านบาท เติบโต 16.9% และผลิตภัณฑ์บิสกิตมีรายได้ 515.8 ล้านบาท เติบโต 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำในการผลิตและนำเข้าเนย ชีส และอาหารสำเร็จรูปชั้นนำจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการจำหน่ายสินค้าในทุกช่องทาง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ช่องทางการจำหน่ายให้ผู้ประกอบการ (B2B) มีรายได้อยู่ที่ 2,088.0 ล้านบาท เติบโต 16.2% ช่องทางการจำหน่ายให้ผู้บริโภค (B2C) มีรายได้ 2,638.7 ล้านบาท เติบโต 17.9% และการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ มีรายได้อยู่ที่ 223.3 ล้านบาท เติบโต 16.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทย่อย ได้แก่ อินโดกูนา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ IDG ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารแช่เข็ง เช่น เนื้อ ล็อบสเตอร์ และโคลคัท เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขั้น ซึ่งช่วยผลักดันให้รายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจไตรมาส 4 บริษัทฯ จะเพิ่มการผลิตสินค้าในกลุ่มเนยและชีส กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต เพื่อรองรับความต้องการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ และรองรับการจับจ่ายใช้สอยจากภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร  จัดเลี้ยง  (HORECA) ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนย ชีสและผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากนม กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารและเบเกอรี่  รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อันจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมอาหารตะวันและเบเกอรี่ให้เติบโต ในขณะที่ในปีนี้แนวโน้มราคาวัตถุดิบยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย 

#KGC #StockReview #BusinessLineandLife #ผลประกอบการ #กำไรสุทธิ #ข่าวธุรกิจ